[Book log] อยู่อย่างไรให้สมองไม่แก่

ภาพรวมหนังสือและสิ่งที่ได้

Sitdhibong
Sitdh[ibong]

--

อยู่อย่างไรให้สมองไม่แก่

ชอบหนังสือเล่มนี้หลายส่วนครับ ผู้เขียนเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านสมอง เลยทราบว่าโครงสร้างหนังสือควรจะเป็นแบบไหน หนังสือกำหนดโครงสร้าง 15 พฤติกรรมออกเป็น 3 ส่วน (อันนี้แบ่งเองนะครับ) คือ

  1. ปรับรูปแบบการใช้ชีวิต ว่าเราควรจะมีพฤติกรรมอย่างไรบ้างเพื่อให้สมองเราได้มีพัฒนาการคงที่หรือเพิ่มขึ้น เช่น เราควรออกกำลังกายให้เลือดไหลเวียน วอร์มอัพสมองด้วยการออกกำลังกาย เดินให้เลือดไหลไปสู่สมองมากขึ้น (เป็นสาเหตุว่ามักจะคิดงานออกในช่วงที่เดิน) ทำงานจุกจิกเล็กน้อย นอนให้เร็ว หลายอย่างดูแล้วต้องเอามาปรับใช้จริงๆ ครับ คุณหมอรูปแบบการใช้ชีวิตแบบนี้ต้องค่อยๆ ปรับให้ชินจนเป็นนิสัย เราดื้อได้ แต่ไม่ใช่ว่าดื้อบ่อยจนเป็นนิสัย
  2. ฝึกพัฒนาการสมอง คุณหมอจะเน้นที่การพัฒนาสมองกลีบหน้ามากเป็นพิเศษ พัฒนาทั้งด้านความจำ การทำงาน การประมวลผลข้อมูลเพื่อสร้างความเชื่อมโยงของข้อมูลที่รับเข้ามา เช่น เราต้องท้าท้ายตัวเองอยู่เสอม กำหนดเส้นตายหรือกรอบการทำงานให้ตัวเองบ่อยๆ อย่างเช่น ต้องพูดหัวข้อ “xxx” ให้กับ “yyy” เข้าใจได้ภายในเวลา 15 นาที การทำแบบนี้จะช่วยให้เราจัดระเบียบความคิดเพื่อรีดเร้นเอาหัวข้อสำคัญและจำเป็นจริงๆ ที่คิดว่า “yyy” จะเข้าใจได้ในเวลาที่กำหนดนั้นออกมา ไม่พูดเยิ้นเย้อนอกเรื่อง หรือแม้กระทั่งการนอนที่จำเป็นมาก เพราะการนอนหลับนั้นจะทำให้สมองจัดระเบียบข้อมูลที่ได้รับมาทั้งวัน ให้ดีมากยิ่งขึ้น
  3. การดูแลรักษา อย่างหนึ่งที่คุณหมอพูดบ่อยมากคือการลดน้ำหนัก และความดันโลหิต ในแง่ของการบำรุงรักษาสมอง เพราะเมื่อความดันโลหิตสูงเท่าไหร่ สมองย่อมได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงลำบากมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ทำให้ดูเฉื่อยชาหรือง่วงอยู่ตลอดเวลาทั้ง ๆ ที่พักผ่อนเพียงพอ

ในส่วนท้าย คุณหมอได้พูดถึงเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากครับ เพราะเป็นบ่อยๆ นั่นก็คือเรื่องของการลืมนั่นลืมนี่บ่อยๆ เรื่องนี้ไม่ได้มาจากความสะเพร่าอย่างเดียว แต่เป็นเพราะตอนที่ทำเรื่องนั้น เช่น วางกระเป๋าสตางค์ ขานรับเมื่อมีคนช่วยวานให้ทำงานให้ นั้นเราทำไปโดยอัตโนมัติ ข้อมูลนั้นไม่ผ่านเข้าสู่สมองการเรียกคืนความจำที่มีต่อเรื่องๆ นั้นจึงเป็นไปได้ยาก หรือไม่มีทางเป็นไปได้เลย วิธีการหนึ่งที่ช่วยได้คือการพูดออกเสียง เพราะการพูดออกเสียงนั้นช่วยเอาความคิดของเรามาเรียบเรียงเป็นคำเพื่อส่งไปแปลงเป็นคำพูด เพื่อพูดออกมา หูของเราจะได้ยินเสียง และส่งกลับมายังสมองอีกที ทั้งนี้การจดบันทึกด้วยมือยังเป็นใช้ได้เหมือนกันอีกด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราจึงจำสิ่งที่เราเขียนได้มากกว่าสิ่งที่เราอ่านในใจ

โดยสรุปแล้ว หนังสือเล่มนี้เป็นเนื้อหาเบื้องต้นและข้อควรระวังสำหรับช่วยบริหารสมองให้มีพัฒนาการคงที่หรือไม่น้อยลงไปกว่าเดิม สนุกดีครับ

--

--